เปลี่ยน ‘ละครคุณธรรม’ ให้กลายเป็นเรื่องจริง
18.10.2023
สรุปประเด็น
ละครคุณธรรมหนึ่งในสื่อที่ได้รับความนิยมจากการนำเสนอคติธรรม “ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วได้ชั่ว” หรือ “กฎแห่งกรรม” แต่เมื่อกลับมามองในโลกแห่งความเป็นจริง “กฎแห่งกรรม” อาจดูเหมือนไม่มีจริงหรือทำงานล่าช้า อย่างที่เราเห็นกันในสังคมว่าคนที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด ทุจริต และคดโกง ยังไม่ได้รับบทลงโทษ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเกิดขึ้นจริงไม่ได้ หากทุกคนมีส่วนร่วมกับสังคมมากยิ่งขึ้น เพื่อ “ทำให้คนผิดได้รับโทษ” ผ่านการแจ้งเบาะแส และข้อมูลการทุจริตในช่องทางต่าง ๆ เรื่องของคุณธรรมก็อาจเกิดขึ้นจริงไม่ใช่เพียงแค่ในละครอีกต่อไป
“ละครคุณธรรม” สื่อรูปแบบหนึ่งที่เริ่มถูกพูดถึงเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงต้นปีที่มีไวรัลประโยค “ฉันเป็นประธานบริษัท” จากละครคุณธรรมที่แม้กระแสดังกล่าวจะหมดลงแล้ว แต่สื่ออย่าง “ละครคุณธรรม” ก็ยังเป็นสื่อรูปแบบหนึ่งที่มีคนดูและติดตามอยู่เรื่อย ๆ เช่น ใน Facebook เพจ “ดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์” ที่มีผู้ติดตาม 9.2 ล้าน หรือใน YouTube “ห้าโมงเย็น แชนแนล” ที่มีผู้ติดตาม 6.9 แสน
จุดเด่นที่ทำให้คนติดกันงอมแงมคงหนีไม่พ้นโครงเรื่องที่ “ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว” หรือเป็นตาม “กฎแห่งกรรม” ซึ่งสอดคล้องกับคตินิยมของคนไทย ตัวอย่างเช่น พนักงานบริษัทเดินชนคนทำความสะอาด เลยได้ด่ากราดและดูถูกว่า “แกเป็นแค่คนทำความสะอาดก็หัดเจียมตัวบ้าง” แต่จริง ๆ แล้วกลับพบว่าคน ๆ นั้นคือเจ้าของบริษัทที่ปลอมตัวมาดูพฤติกรรมพนักงาน หรืออาจจะเป็นเหตุการณ์ที่มีคนแก่ล้มลงกลางถนนต่อหน้าคนสองคน คนหนึ่งเลือกจะเดินผ่านพร้อมดูถูกว่า “แก่ก็แก่ยังไม่รู้จักระวังอีก” แต่อีกคนเลือกที่จะช่วยเหลือ ก่อนจะมาพบว่าคนแก่คนนั้นเป็นเศรษฐี คนที่ช่วยเหลือจึงได้รับการตอบแทนเป็นเงินก้อนใหญ่ ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ก็แทบจะไปในทางเดียวกัน ทำให้คนดูรู้สึกดีใจหากคนที่ทำดีได้ผลลัพธ์ที่ดี ในขณะที่รู้สึกสะใจหากคนไม่ดีได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีตามสิ่งที่ตัวเองทำ
แต่เมื่อกลับมามองชีวิตจริง มีโอกาสไม่ถึง 1% ที่สถานการณ์นั้นจะเกิดขึ้นจริง ๆ เจ้าของบริษัทคงไม่มาทำความสะอาด หรือหาได้ยากที่เศรษฐีจะมาเดินถนนคนเดียวในขณะที่ “กฎแห่งกรรม” ในโลกความจริงอาจดูเหมือนไม่มีจริงหรือทำงานล่าช้า เพราะหลายคนที่เราสงสัยว่าใช้อำนาจในทางที่ผิด ทุจริต คดโกง แต่กลับไม่ถูกตรวจสอบ หรือคนที่ผิดกลับไม่ได้รับบทลงโทษ หนึ่งประโยคประชดประชันสังคมที่เรามักได้ยิน คือ “ประเทศนี้คนรวยกับคนมีอำนาจไม่ต้องติดคุก” โดยยกตัวอย่าง “คดีบอสอยู่วิทยา” กรณีขับรถชนนายตำรวจเสียชีวิตแต่ไม่ติดคุก หรือคดีทุจริตที่กว่าจะพบว่ามีการโกงก็เสียหายไปหลายล้านบาท กว่าจะตัดสินคดี คนผิดก็หนีออกนอกประเทศไปแล้ว ในขณะที่วิศวกรวัย 27 ปี ที่ปฏิเสธการทุจริตกลับต้องสังเวยชีวิตเมื่อปีที่แล้วที่จังหวัดหนองบัวลำภู และนี่อาจจะเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนหลีกหนีจากโลกความเป็นจริงไปอินกับละครคุณธรรม เพราะรู้สึกว่าสังคมมันไม่น่าอยู่และกฎแห่งกรรมในชีวิตจริงเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ตามแม้ในชีวิตจริงจะไม่ได้เป็นไปอย่างละครคุณธรรม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ความหวังของสังคมจะหมดไป เราสามารถสร้างละครคุณธรรมที่ “คนทำดีได้ดี คนทำชั่วได้ชั่ว” ให้เกิดขึ้นได้เหมือนกัน ถ้าประชาชนอย่างเรามีส่วนร่วมกับสังคมมากขึ้น เพราะปัจจุบันทุกภาคส่วนของสังคมร่วมกันสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามาร่วม “ทำให้คนผิดได้รับโทษ” ด้วยเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยต่อการให้ข้อมูลคนทำผิด คนทุจริต คนโกง โดยขอยกตัวอย่างทั้งหมด 3 แพลตฟอร์ม
1. “Corruption Watch ฟ้องโกงด้วยแชตบอต” ถ้าเราได้ยินเรื่องการทุจริต สงสัยโครงการรัฐใกล้บ้าน ถูกเรียกเงินสินบน หรือส่วย ไม่ว่าเรื่องทุจริตอะไรสามารถส่งเรื่องมาที่แชตไลน์ของ Corruption Watch โดยไม่ต้องระบุตัวตน และหลังจากที่ได้รับเรื่องก็จะมีการตรวจสอบ หากมีคนผิดจะถูกดำเนินไปตามกระบวนการ ซึ่งปัจจุบัน “Corruption Watch ฟ้องโกงด้วยแชตบอต” ได้รับแจ้งเรื่องมาแล้วมากถึง 84 เรื่อง และถ้าสนใจสามารถแจ้งเรื่องเพิ่มเติมได้โดยสแกนคิวอาร์โค้ดไลน์ในหน้าเว็บไซต์ https://cs.actai.co/about/
2. “ต้องแฉ” เพจ Facebook รับร้องเรียนปัญหาทุจริต ที่เคยมีผลงานอย่างกรณีเสาไฟกินรีที่กลายเป็นไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังมีกรณีเหตุสงสัยโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ขององค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะราคาสูงเกินจริง และหลาย ๆ กรณี ซึ่งมาจากประชาชนช่วยกันตรวจหาข้อมูล และส่งเรื่องมาทางเพจต้องแฉซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบการทุจริต
3. Traffy Fondue หนึ่งในแพลตฟอร์มรับเรื่องร้องเรียนปัญหาใน กทม. ที่ไม่ได้มีไว้แจ้งเฉพาะปัญหาถนน ทางเท้า น้ำท่วม ความสะอาดเท่านั้น แต่ยังสามารถแจ้งปัญหาการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐได้อีกด้วย โดยถ้าเราแจ้งเรื่อง ข้อมูลจะถูกส่งให้กับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ก่อนจะส่งเรื่องไปยังเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องและลงตรวจสอบ ซึ่งหากใครพบเจอปัญหาสามารถร้องเรียนไปได้ที่ไลน์ @traffyfondue
เครื่องมือทั้งหมดที่ยกมาเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ปัจจุบันสังคมเรายังมีเครื่องมืออีกหลากหลาย เช่น ACT Ai, Build Better Lives by CoST ที่ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบข้อมูลโครงการ การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อนำไปสู่เบาะแสการทุจริต และแน่นอนว่าหากคนเหล่านั้นทำผิดจริงก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนจะจบด้วยการถูกลงโทษจำคุกและชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งก็ไม่ต่างจากละครคุณธรรมที่สุดท้ายแล้วคนทำชั่วก็จะไม่ได้รับสิ่งที่ดีตอบแทน
------------------------
บทความคิดด้วยพลเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า ตอน เปลี่ยน ‘ละครคุณธรรม’ ให้กลายเป็นเรื่องจริง
Author
Surawat dewa
Content Writer ผู้ชอบที่จะเขียนประเด็นสังคมและสนใจรับข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยหวังว่าสักวันจะหา “วัน Copy” ที่ดีที่สุดให้เจอ และจะกลายเป็นราชาแห่งการเขียนให้ได้เลย!!