Collaboration for Good Governance ร่วมสร้างสังคมดีด้วยหลักธรรมาภิบาล
09.08.2023
สรุปประเด็น
ปี 2565 ที่ผ่านมา “โครงการธรรมาภิบาลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Governance for Sustainable Development Project)” ได้ทำหน้าที่ผลักดันธรรมาภิบาลในสังคมไทยจนทำให้เกิดภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนธรรมาภิบาลกว่า 79 องค์กร ประชาชนเข้าร่วมกว่า 524 คน และสร้างความร่วมมือกว่า 50 ครั้ง
ทำให้ปี 2566 นี้ได้มี “โครงการร้อยพลังสร้างเสริมธรรมาภิบาล” เพื่อสานต่อการส่งเสริมธรรมาภิบาล โดยโครงการนี้เกิดขึ้นภายใต้ “งานร้อยพลังสร้างสังคมดี มูลนิธิเพื่อคนไทย” ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานด้านธรรมาภิบาลในประเทศไทย และตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จในหลาย ๆ งาน โดยมี HAND Social Enterprise ทำหน้าที่สนับสนุนเชื่อมการทำงานระหว่างองค์กร สร้างความร่วมมือเพื่อส่งเสริมธรรมาภิบาล ผ่าน 4 กลยุทธ์ คือ
- สนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใส
- สื่อสารเพื่อสร้างการตระหนักรู้และมีส่วนร่วม
- สร้างพลังประชาชนในการเฝ้าระวังผ่านช่องทางต่าง ๆ
- สนับสนุนความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดการทำงานอย่างต่อเนื่องและเกิดความร่วมมือในระยะยาว
โครงการร้อยพลังสร้างเสริมธรรมาภิบาล (Collaboration for Good Governance) หนึ่งในโครงการภายใต้งานร้อยพลังสร้างสังคมดี มูลนิธิเพื่อคนไทย ที่เริ่มดำเนินงานในปี 2566 โครงการดังกล่าวเป็นการส่งเสริมและสร้างความร่วมมือภาคส่วนต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนงานด้านธรรมาภิบาล ผู้เขียนจึงอยากบอกเล่าความสำเร็จของการดำเนินงานช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อส่งต่อกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานองค์กรภาคีเครือข่าย และประชาชนทั่วไปได้ทราบถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านการส่งเสริมธรรมาภิบาลในสังคม ซึ่งยังคงมีองค์กรภาคีเครือข่ายอีกมากมายที่ต้องการสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับธรรมาภิบาลและร่วมสร้างสังคมให้ดียิ่งขึ้น
ความเป็นมาของโครงการนี้ย้อนไปเมื่อปี 2565 หรือผู้อ่านสามารถตามอ่านจากบทความตอนที่แล้วผู้เขียนได้เล่าถึงโครงการธรรมาภิบาลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Governance for Sustainable Development Project) ที่มีการระดมความร่วมมือเพื่อพัฒนาธรรมาภิบาลใน 6 ประเด็น ได้แก่ 1. ภาคการเงินและการธนาคาร 2. ภาคตลาดทุน3. การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และ Open Data 4. การยกระดับธรรมาภิบาลของระบบรัฐสภา5. ธรรมาภิบาลป่าไม้ และ 6. การยกระดับธรรมาภิบาลสื่อบุคคล ผลการดำเนินงานมีองค์กรภาคีเครือข่ายเข้าร่วมขับเคลื่อนงานกว่า 79 องค์กร ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกว่า 524 คน มีการประชุมเพื่อสร้างความร่วมมือกว่า 50 ครั้ง จนนำไปสู่การขยายผลเกิดเป็นโครงการร้อยพลังสร้างเสริมธรรมาภิบาลที่กำลังขับเคลื่อนงานในปีนี้
โครงการร้อยพลังสร้างเสริมธรรมาภิบาลมีการวางแผนเพื่อขยายความร่วมมือไปสู่ภาคส่วนต่าง ๆ และเน้นการสร้างความร่วมมือให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ด้วยการทำงานสร้างเสริมธรรมาภิบาลร่วมกับภาคีเครือข่ายผ่าน 4 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.การสนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใส 2.การสื่อสารเพื่อสร้างการตระหนักรู้และมีส่วนร่วม 3.การสร้างพลังประชาชนในการเฝ้าระวังผ่านช่องทางต่างๆ 4.การสนับสนุนความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดการทำงานอย่างต่อเนื่องและเกิดความร่วมมือในระยะยาว
การดำเนินงานโครงการมีคณะทำงาน HAND Social Enterprise เข้ามาทำหน้าที่ “Catalyst” สนับสนุนการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างองค์กรไปจนถึงระดับภาคส่วนให้กับภาคีในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นฝ่ายสนับสนุนภาคีเครือข่ายในการทำให้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นสู่การลงมือปฏิบัติจริงเห็นผลเป็นรูปธรรม จนเกิดกลไกในการส่งเสริมธรรมาภิบาลในแต่ละภาคส่วนเป็นระบบนิเวศ กลายเป็นพลังทางสังคมที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบได้ต่อไป
ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้เขียนขอยกตัวอย่างตามกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ประการแรก การสนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใส คณะทำงาน ฯ ประสานงานเพื่อสร้างความร่วมมือกับภาคสื่อสารมวลชน ภาคการเมือง ภาควิชาการ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในประเด็นต่าง ๆ เพื่อร่วมจัดงาน “Hack Thailand 2575:48 ชั่วโมง พลิกโฉมประเทศไทย สู่ภาพอนาคตหลังเลือกตั้ง” การจัดงานในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนจากหลากหลายภาคส่วนมีโอกาสระดมความคิดและสร้างสรรค์นโยบายสาธารณะรวมถึงการเข้าร่วมฟังและตอบรับนโยบายจากตัวแทนพรรคการเมือง ผู้กำหนดนโยบาย และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
นอกจากนี้คณะทำงานฯ ประสานความร่วมกับภาคีเครือข่ายอื่นๆ เช่น สำนักข่าว PPTVHD งานร้อยพลังสื่อ มูลนิธิเพื่อคนไทย สถานีวิทยุ 96.5 รายการคนค้นฅน สถานีโทรทัศน์ อสมท. สำนักข่าวอมรินทร์ทีวี สถาบันส่งเสริมประชาธิปไตย (NDI) และแกนนำเครือข่ายภาคประชาชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ในการประชาสัมพันธ์เครื่องมือ ACT Ai และนำเสนอแนวทางการดำเนินงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การร่วมเป็นวิทยากรจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการร่วมเป็นวิทยากรบรรยายเพื่อให้ความรู้เรื่องการใช้งานเครื่องมือACT Ai การสัมภาษณ์ผ่านรายงานวิทยุ และการสัมภาษณ์ผ่านรายการต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้สู่สังคมในวงกว้าง
ประการที่สอง การสื่อสารเพื่อสร้างการตระหนักรู้และมีส่วนร่วม คณะทำงานฯ ร่วมมือกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จัดทำสื่อ Infographic สรุปนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองช่วงเลือกตั้ง 2566 มีการเผยแพร่ข้อมูลบนเฟซบุ๊กเพจองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน และมีการประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ร่วมกันเผยแพร่ผ่านช่องทางการสื่อสารขององค์กรเพื่อสร้างการรับรู้สู่สังคมในวงกว้าง นอกจากนี้คณะทำงาน ฯ มีการประสานงานร่วมกับงานร้อยพลังสื่อ มูลนิธิเพื่อคนไทย ในการประชาสัมพันธ์ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันและส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค (KRAC) และแนะนำกลไกการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันสำหรับประชาชน ผ่านการเปิดพื้นที่สื่อกลางให้ทุกคนสามารถร่วมแก้ปัญหาคอร์รัปชันของเพจต้องแฉ ผ่านสถานีวิทยุ FM 96.5 ในรายการเวทีความคิด
ประการที่สาม การสร้างพลังประชาชนในการเฝ้าระวังผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยทีมงานเพจต้องสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านการใช้งานเครื่องมือฟ้องโกงด้วยแชตบอต(Corruption Watch) ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนการเข้าถึงเครื่องมือผ่านการเพิ่มเพื่อนใน LINE Official Account รวมทั้งหมดจำนวน 539 Users มีการใช้งานเพื่อแจ้งเบาะแสรวมทั้งสิ้น 121 เรื่อง และมีการเผยแพร่และรายงานสถานะบนเว็บไซต์ cs.actai.co รวมทั้งหมด 101 เรื่อง นอกจากนี้ทีมงานเพจต้องแฉสร้างความร่วมมือกับเทใจดอทคอม โดยขอรับการสนับสนุนทุนในการดำเนินงานผ่านแฟลตฟอร์มเทใจ ประชาชนที่มีความสนใจสามารถร่วมสนันสนุนโดยบริจาคผ่านช่องทางเทใจได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2566
ประการสุดท้าย การสนับสนุนความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม คณะทำงาน ฯ ร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้าและเครือข่าย ขยายผลรายงานการศึกษาการเปิดเผยข้อมูลของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาบนเว็บไซต์รัฐสภาไทย โดยนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ในการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “เยาวชนกับการออกแบบนวัตกรรมสู่การเป็นรัฐสภาแบบเปิด (Open Parliament) ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน 2566 การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เปิดโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้ร่วมกันออกแบบนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการเป็นรัฐสภาแบบเปิดของรัฐสภาไทย รวมถึงนำเสนอนวัตกรรมแก่ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคีเครือข่ายและรวบรวมข้อเสนอแนะต่างๆจัดทำเป็นเอกสารข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อเสนอแก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาต่อไป
ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเป็นเพียงบางส่วนของความสำเร็จที่เกิดจากการสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคีเครือข่ายที่ต้องการขับเคลื่อนงานร่วมกัน ผู้เขียนหวังอย่างยิ่งว่า
------------------------
Author
Patcharee Treeprom
ผู้จัดการโครงการ ทำงานสร้างความร่วมมือกับภาคีเพื่อขับเคลื่อนงานด้านธรรมาภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชัน เวลาว่างต้องพาหมาน้องแจ็คไปเข้าสังคมที่สวนรถไฟ