เลือกตั้งเทศบาล 2568: บทบาทประชาชนในการสร้างความโปร่งใสและต้านคอร์รัปชันท้องถิ่น
14.05.2025
สรุปประเด็น
บทความนี้ถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 โดยนำเสนอว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นกลไกประชาธิปไตยที่ใกล้ชิดประชาชนและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในพื้นที่โดยตรง ปัญหาคอร์รัปชันยังคงพบได้ในรูปแบบต่างๆ เช่น การซื้อเสียง การใช้อิทธิพล และการใช้ทรัพยากรรัฐอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งมีสาเหตุจากการขาดการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ วัฒนธรรมอุปถัมภ์ และการขาดความเข้าใจในสิทธิทางการเมือง ประชาชนสามารถมีบทบาทสร้างความโปร่งใสได้โดยตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครผ่านแอป Smart Vote ปฏิเสธการซื้อเสียงและรายงานการทุจริตผ่านแอปตาสับปะรดหรือสายด่วน กกต. และติดตามตรวจสอบการทำงานของผู้นำหลังเลือกตั้งผ่าน ACT Ai หากพบความผิดปกติสามารถแจ้งเบาะแสผ่านช่องทางที่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตนอย่าง Corruption Watch และเพจต้องแฉ การมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกขั้นตอนคือกุญแจสำคัญในการสร้างการเมืองท้องถิ่นที่โปร่งใส ยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง
การเลือกตั้งเทศบาล 2568 ไม่ได้เป็นเพียงกระบวนการทางการเมือง แต่เป็นเวทีที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมสร้างการเมืองท้องถิ่นที่โปร่งใสได้จริง เลือกตั้งเทศบาล 2568 เป็นจุดเริ่มสร้างความโปร่งใสในท้องถิ่น ประชาชนมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบ ต้านคอร์รัปชัน และร่วมพัฒนาชุมชน
สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีทั่วประเทศที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของกระบวนการประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น ที่ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่เป็นการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนาท้องถิ่นให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่ และเลือกผู้นำที่มีคุณภาพ มีจริยธรรม สามารถพัฒนาท้องถิ่นอย่างโปร่งใส หลังจากกระบวนการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง บทความฉบับนี้จึงขอถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างความโปร่งใสการเลือกตั้งท้องถิ่น ปัญหาคอร์รัปชันที่มักเกิดขึ้นในระดับเทศบาล รวมถึงแนวทางที่ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบความโปร่งใสในท้องถิ่นของตนเอง
การเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นกลไกประชาธิปไตยที่สำคัญและใกล้ตัวประชาชนมากที่สุด เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับคุณภาพชีวิตในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข หรือการจัดการสิ่งแวดล้อม การเลือกผู้นำท้องถิ่นจึงไม่ใช่เพียงการลงคะแนนเสียงแต่เป็นการกำหนดทิศทางการพัฒนาชุมชนของตนเอง การมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการเลือกตั้ง การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการทำงานของผู้นำหลังจากได้รับเลือกตั้งแล้วล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมธรรมาภิบาล และสร้างความโปร่งใสในการแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชันที่อาจเกิดขึ้นได้
ปัญหาคอร์รัปชันในระดับท้องถิ่น แม้การเลือกตั้งจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ในหลายพื้นที่กลับประสบปัญหาคอร์รัปชันที่ฝังรากลึก ปัญหาเหล่านี้สามารถพบได้ในหลายรูปแบบ เช่น การซื้อเสียงในช่วงเลือกตั้งท้องถิ่น การใช้อำนาจหรืออิทธิพลครอบงำผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง การใช้ทรัพยากรของรัฐในการหาเสียงอย่างไม่เหมาะสม เป็นต้น โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดคอร์รัปชันในระดับท้องถิ่น เช่น ขาดการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการตรวจสอบการทำงานของผู้นำท้องถิ่น วัฒนธรรมอุปถัมภ์ความสัมพันธ์เชิงผลประโยชน์ระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชน ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกเกรงใจหรือ “ติดหนี้บุญคุณ” และประชาชนยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิทางการเมือง เป็นต้น
“ประชาชนจะมีบทบาทในการสร้างความโปร่งใสได้อย่างไร?” ประชาชนเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนความโปร่งใสโดยสามารถมีส่วนร่วมได้ในหลายรูปแบบ
นอกจากนั้นหากประชาชนพบเห็นความผิดปกติหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินโครงการดังกล่าว เช่น การสร้างไม่ได้มาตรฐาน โครงการล่าช้าจนหมดสัญญา หรือโครงการถูกทิ้งร้าง สามารถแจ้งเบาะแสให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าตรวจสอบ เช่น สำนักงาน ป.ป.ช. ในพื้นที่ ศูนย์ดำรงธรรม กรณีที่ประชาชนไม่มั่นใจการแจ้งเรื่องผ่านช่องทางของหน่วยงานรัฐอาจจะมีความกังวลเรื่องการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แจ้งเรื่อง ผู้เขียนขอแนะนำช่องทางที่ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสโดยแนบหลักฐานและข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทางเครื่องมือ Corruption Watch ฟ้องโกงด้วยแชตบอต และเฟซบุ๊กเพจต้องแฉ (Must Share) ที่เป็นเครื่องมือรับแจ้งเบาะแสทุจริตคอร์รัปชันสําหรับประชาชน ซึ่งจะไม่ต้องเปิดเผยตัวตนผู้แจ้งเบาะแส และมีทีมงานประสานงานส่งเบาะแสของผู้แจ้งไปที่หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ตรวจสอบ รวมถึงมีการติดตามความคืบหน้าให้กับผู้แจ้งได้ทราบข้อมูล
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการใช้สิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของชุมชนตนเอง ความโปร่งใสในการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนลุกขึ้นมามีบทบาท ตั้งแต่การตรวจสอบผู้รับสมัครเลือกตั้ง การปฏิเสธและรายงานเมื่อพบเห็นการซื้อเสียง ไปจนถึงการติดตามตรวจสอบการทำงานของผู้นำหลังการเลือกตั้งผ่านเครื่องมือและช่องทางต่าง ๆ ที่เปิดให้เข้าถึง การมีส่วนร่วมเหล่านี้คือหัวใจของการสร้างการเมืองท้องถิ่นที่โปร่งใส ยั่งยืน เป็นธรรม และตอบสนองต่อประชาชนอย่างแท้จริง
---------------------------
บทความคิดด้วยพลเมือง ตอน : เลือกตั้งเทศบาล 68 : ประชาชนร่วมสร้างความโปร่งใสในการเลือกตั้งได้อย่างไรบ้าง
---------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
Author
Patcharee Treeprom
ผู้จัดการโครงการ ทำงานสร้างความร่วมมือกับภาคีเพื่อขับเคลื่อนงานด้านธรรมาภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชัน เวลาว่างต้องพาหมาน้องแจ็คไปเข้าสังคมที่สวนรถไฟ